บทความแนะนำผลิตภัณฑ์ความงาม

Authoradmin

แนะนำ 3 ไวท์เทนนิ่งเซรั่ม เปลี่ยนผิวคล้ำให้กระจ่างใส

Posted on February 7, 2019February 25, 2021

เรื่องความขาวนั้นแน่นอนว่าเป็นที่ปรารถนาของใครหลายๆ คนเพราะผิวขาวสามารถแต่งตัวได้ง่ายและสร้างความมั่นใจได้มากกว่าผิวหมองคล้ำขาดการดูแล ซึ่งวันนี้เราก็มีไวท์เทนนิ่งเซรั่มเข้มข้นมาแนะนำกันถึง 3 ตัวเลยทีเดียว แม้ราคาจะแรงไปสักหน่อยแต่บอกเลยว่าคุ้มค่ากับการฟื้นฟูบำรุงผิวแน่นอน 1.Kiehl’s Clearly Corrective Dark Spot Solution 30 ml. เซรั่มตัวโด่งดังที่เคลมในเรื่องการลดรอยดำกำลังฮิตมากเลยทีเดียว เหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์พากันแนะนำว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้ประสิทธิภาพมากโดยเฉพาะการลดรอยแดง รอยดำจากสิวทำให้ผิวหน้าสีเรียบเสมอกันโดยจะเข้าไปพัฒนาโครงสารวิตามินซีของผิวทำให้ผิวค่อยๆ ขาวกระจ่างใสขึ้น เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับทุกสภาพผิวด้วย 2.SK-II GenOptics Aura Essence 30 ml. เซรั่มลดรอยดำจากเอสเคทู ซึ่งก็ฮิตไม่แพ้กัน ช่วยฟื้นฟูบำรุงให้ผิวขาวกระจ่างใสด้วยส่วนผสมหลักอย่างพิเทร่าจะช่วยให้ผิวดูมีสุขภาพดีและอุดมไปด้วยไวท์เทนนิ่งที่ทำให้ผิวหน้าขาวเร็วขาวไวไร้จุดด่างดำกวนใจเลยทีเดียว ราคาแรงสักหน่อยแต่หากเทียบกับเทคโนโลยีของผลิตภัณฑ์แล้วล่ะก็ถือว่าคุ้มค่ามากทีเดียว 3.It’s Skin Power 10 Formula WH Effector 30 ml. แบรนด์น้องใหม่จากเกาหลีราคาเบาๆ ของถูกและดียังมีให้เลือกใช้อยู่เสมอ เหมาะกับคนที่มีงบจำกัดสำหรับเซรั่มไวท์เทนนิ่งตัวนี้นั้นผสม Alpha Arbutin จึงทำให้ผิวขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยปรับสีผิวให้เรียบเนียนเสมอกันได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจแก้ไขเรื่องจุดด่างดำได้ดีเลย

2 เซรั่มวิตามินซีใช้ดีจนอยากแนะนำ สรรพคุณหลักล้านราคาหลักพัน

Posted on August 10, 2018June 3, 2021

วิตามินซีนั้นเป็นสารบำรุงที่จะทำให้ผิวพรรณขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ดังนั้นหลายผลิตภัณฑ์จึงนิยมใส่วิตามินซีลงในผลิตภัณฑ์ด้วย แต่หากจะให้ดีต้องเป็นเซรั่มตัวเข้มข้นซึ่งจะมีส่วนช่วยในการสร้างความกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอยจุดด่างดำและกระตุ้นการทำงานของคลอลาเจนด้วย ซึ่งวันนี้เราก็มีเซรั่มวิตามินซีสองตัวดังมาแนะนำกัน รับรองว่าใช้ดีจนอยากจะซื้อมาใช้ซ้ำแน่นอน 1. Oriental Princess Natural Power C Miracle Brightening Complex Advanced Brightening Serum เป็นเซรั่มวิตามินซีจากแบรนด์ไทยแท้ที่มาพร้อมคุณภาพคับแก้ว เซรั่มตัวนี้เป็นวิตามินซีบริสุทธิ์ 100% ตัวเนื้อเซรั่มมีลักษณะใสๆ ซึมซาบไวทาง่ายจะช่วยในการปรับสภาพผิวให้ขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ฟื้นฟูผิวเสียหมองคล้ำจากแดดและยังช่วยในเรื่องรอยดำจากสิวได้ด้วย แม้จะเป็นวิตามินซีเข้มข้นแต่ก็ไม่ทำให้ผิวระคายเคืองเพราะมีสาร Prime C Complex™ ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของแบรนด์โดยเฉพาะ โดยวิตามินซีเข้มข้นนี้จะสามารถรีไซเคิลตัวเองให้กลับมาทำงานได้เหมือนหมดพลัง ดังนั้นคงเป็นเซรั่มที่ควรมีติดไว้เลยล่ะ ราคาไม่แรงแต่สรรพคุณล้ำมาก 2.Paula’s Choice C15 Super Booster เซรั่มตัวดังจากป้าพอลล่าหรือแบรนด์ Paula’s Choice ที่โด่งดังมากสำหรับตัวน้ำตบ แต่สำหรับเซรั่มวิตามินซีเข้มข้นตัวนี้ก็ดีงามไม่แพ้กันเลย เพราะเป็นวิตามินซีเข้มข้นถึง 15% ทำให้ผิวขาวกระจ่างใสได้ในเวลารวดเร็วและยังช่วยฟื้นฟูปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนไร้จุดด่างดำอีกด้วย หมดปัญหาผิวไม่สม่ำเสมอและยังช่วยซ่อมแซมริ้วรอยร่องลึกทำให้อ่อนเยาว์ขึ้น ตัวนี้ราคาอาจแรงสักหน่อยแต่คุ้มค่ากับการใช้งานมาก

แนะนำผลิตภัณฑ์ไพร์เมอร์ คุมมันคุมเหงื่อ

Posted on March 5, 2018June 3, 2021

แม้จะเข้าสู่ฤดูหนาวแต่อากาศเมืองไทยนั้นก็ยังร้อนอยู่ดี ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับความงามจึงต้องเลือกแบบที่คุมมันและกันเหงื่อได้ เพราะช่วงเช้าแม้จะเย็นแต่ตกบ่ายก็ร้อนเหมือนเดิมหากไม่เลือกใช้ภัณฑ์ที่คุมมันล่ะก็ผิวหน้าอาจจะเยิ้มเอาได้ และวันนี้เราก็มีไพร์เมอร์ตัวเด็ดที่คุมมันกันเหงื่อมาแนะนำกันด้วยล่ะ 1.Benefit The POREfessional Face Primer เป็นไพร์เมอร์ในตำนานเลยก็ว่าได้สำหรับแบรนด์นี้คุมมันได้ดีและกันเหงื่อเป็นสูตร oil-free ที่เหมาะกับสาวผิวมันมากเลยทีเดียว ใช้ก่อนลงรองพื้นเพื่อสร้างให้ผิวหน้าเพอร์เฟคไม่เป็นการเพิ่มความมันให้กับใบหน้า เนื้อสัมผัสคลายซิลิโคนแต่มีความบางเบาเกลี่ยง่ายไม่เป็นคราบ 2.Urban Decay ALL NIGHTER Long Lasting Makeup Setting Spray เป็นสเปรย์ไพร์เมอร์ที่ใช้งานง่ายเหมาะกับคนไม่ชอบอะไรหนักๆ ผิวหน้า ไพร์เมอร์ตัวนี้จะช่วยทำให้เครื่องสำอางติดทนนานมากขึ้นและคุมมันได้เป็นอย่างดีเรียกว่าใช้ตอนเช้าตอนกลางคืนก็ยังเอาอยู่ และยังทำให้เมคอัพสีชัดดีสวยขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย โดยสเปรย์ไพร์เมอร์ตัวนี้จะช่วยลดอุณหภูมิของใบหน้าทำให้เครื่องสำอางไม่เยิ้มระหว่างวันนั่นเอง 3.CLARINS Fix Make-Up Long-lasting Make-up Hold นอกจากสกินแคร์แล้วยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับเมคอัพด้วยเช่นกันสำหรับแบรนด์คลาแรงส์ ตัวนี้เป็นสเปรย์ไพรเมอร์ ฟินิชเมคอัพเอาไว้ฉีดหลังแต่งหน้าเสร็จแล้ว ตัวสเปรย์มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและยังสร้างความสดชื่นให้ผิวหน้าอีกด้วย ช่วยคุมมันได้ตลอดทั้งวัน

3 สกินแคร์สไตล์มินิมอลที่ควรมีติดโต๊ะไว้

Posted on February 14, 2018February 25, 2021

สกินแคร์ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะขาดไม่ได้เลยเพราะว่าต้องใช้บำรุงผิวพรรณให้ดูดีอยู่เสมอ ซึ่งปัจจุบันก็มีหลากหลายแบรนด์ให้เลือก แต่ในยุคที่ความเป็นมินิมอลกำลังมาแรงมาก เราก็มีสกินแคร์สไตล์มินิมอลมาฝากกันด้วย เป็น 3 แบรนด์ที่ต้องมีติดโต๊ะไว้เลยนอกจากดูเป็นแฟชั่นแล้วสรรพคุณการบำรุงยังดีงามจนเหล่าบิ้วตี้บล็อกเกอร์ต้องสอยมาใช้กัน ลองมาดูกันว่ามีแบรนด์ไหนบ้าง 1.The Ordinary เป็นสกินแคร์จากอังกฤษที่มาแรงมากในขณะนี้เลย เรียกว่าเป็นตัวปลุกกระแสความมินิมอลในกลุ่มสกินแคร์เลยก็ว่าได้ ทั้งตัวแบรนด์และผลิตภัณฑ์เน้นคอนเซ็ปต์ความเป็นมินิมอลตั้งแต่แพคเกจไปจนถึงตัวอักษรบนผลิตภัณฑ์ ซึ่งบนฉลากไม่ได้มีอะไรเขียนให้รกวุ่นวายบอกส่วนผสมเพียงแค่ 1-2 ตัวเท่านั้น ซึ่งหากมีปัญหาผิวด้านไหนก็แค่ดูฉลากตรงนี้แล้วเลือกให้ตรงเป็นอันจบ นอกจากแพคเกจที่สวยงามแบบเรียบง่ายแล้วราคาก็น่าสอยเพราะมินิมากจริงๆ 2.BY ECOM เป็นสกินแคร์จากฝั่งเกาหลีที่ก่อตั้งโดยบิ้วตี้บล็อกเกอร์ชื่อดังนั่นเอง สกินแคร์ส่วนใหญ่ของแบรนด์นี้จะเน้นการให้ความชุ่มชื่นเป็นหลัก เหมาะกับผิวที่แพ้ง่ายและผิวปัญหาสิว แพคเกจมีความมินิมอลแบบน่ารักน่าใช้ด้วยสีพาสเทลหวานๆ หากอยากได้สกินแคร์แบรนด์นี้จะต้องพรีออเดอร์เท่านั้นเพราะยังไม่มีขายในไทย 3.Drunk Elephant แบรนด์น้องใหม่จากอเมริกาที่มาในคอนเซ็ปต์แบบมินิมอล แม้จะเป็นน้องใหม่แต่ผลิตภัณฑ์ได้รับรางวัลมากมายซึ่งเน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ ปลอดภัยต่อผิวไม่แต่งกลิ่นจึงได้ฟิลแบบธรรมชาติสุดๆ สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวแม้ผิวที่แพ้ง่ายหรือผ่านสารเคมีมาอย่างหนักก็ฟื้นฟูได้

3 สกินแคร์สไตล์มินิมอลที่ควรมีติดโต๊ะไว้

Posted on October 4, 2017June 3, 2021

สกินแคร์ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะขาดไม่ได้เลยเพราะว่าต้องใช้บำรุงผิวพรรณให้ดูดีอยู่เสมอ ซึ่งปัจจุบันก็มีหลากหลายแบรนด์ให้เลือก แต่ในยุคที่ความเป็นมินิมอลกำลังมาแรงมาก เราก็มีสกินแคร์สไตล์มินิมอลมาฝากกันด้วย เป็น 3 แบรนด์ที่ต้องมีติดโต๊ะไว้เลยนอกจากดูเป็นแฟชั่นแล้วสรรพคุณการบำรุงยังดีงามจนเหล่าบิ้วตี้บล็อกเกอร์ต้องสอยมาใช้กัน ลองมาดูกันว่ามีแบรนด์ไหนบ้าง 1.The Ordinary เป็นสกินแคร์จากอังกฤษที่มาแรงมากในขณะนี้เลย เรียกว่าเป็นตัวปลุกกระแสความมินิมอลในกลุ่มสกินแคร์เลยก็ว่าได้ ทั้งตัวแบรนด์และผลิตภัณฑ์เน้นคอนเซ็ปต์ความเป็นมินิมอลตั้งแต่แพคเกจไปจนถึงตัวอักษรบนผลิตภัณฑ์ ซึ่งบนฉลากไม่ได้มีอะไรเขียนให้รกวุ่นวายบอกส่วนผสมเพียงแค่ 1-2 ตัวเท่านั้น ซึ่งหากมีปัญหาผิวด้านไหนก็แค่ดูฉลากตรงนี้แล้วเลือกให้ตรงเป็นอันจบ นอกจากแพคเกจที่สวยงามแบบเรียบง่ายแล้วราคาก็น่าสอยเพราะมินิมากจริงๆ 2.BY ECOM เป็นสกินแคร์จากฝั่งเกาหลีที่ก่อตั้งโดยบิ้วตี้บล็อกเกอร์ชื่อดังนั่นเอง สกินแคร์ส่วนใหญ่ของแบรนด์นี้จะเน้นการให้ความชุ่มชื่นเป็นหลัก เหมาะกับผิวที่แพ้ง่ายและผิวปัญหาสิว แพคเกจมีความมินิมอลแบบน่ารักน่าใช้ด้วยสีพาสเทลหวานๆ หากอยากได้สกินแคร์แบรนด์นี้จะต้องพรีออเดอร์เท่านั้นเพราะยังไม่มีขายในไทย 3.Drunk Elephant แบรนด์น้องใหม่จากอเมริกาที่มาในคอนเซ็ปต์แบบมินิมอล แม้จะเป็นน้องใหม่แต่ผลิตภัณฑ์ได้รับรางวัลมากมายซึ่งเน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ ปลอดภัยต่อผิวไม่แต่งกลิ่นจึงได้ฟิลแบบธรรมชาติสุดๆ สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวแม้ผิวที่แพ้ง่ายหรือผ่านสารเคมีมาอย่างหนักก็ฟื้นฟูได้

3 กันแดด 3 แบบสำหรับสภาพผิวที่ต่างกัน ถูกแนะนำจากเหล่าบล็อกเกอร์ความงาม

Posted on September 15, 2017June 3, 2021

จริงๆ แล้วสภาพผิวของคนเรานั้นต่างกันด้วยกิจวัตรประจำวันและมลพิษรวมถึงการดูแลของแต่ละบุคคล ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะต้องคำนึงถึงสภาพผิวด้วย โดยเฉพาะส่วนของครีมกันแดด หากเลือกให้เหมาะสมก็จะทำให้มีประสิทธิภาพในการปกป้องและบำรุงมากยิ่งขึ้นด้วย วันนี้เราก็มีกันแดดทั้ง 3 แบบ 3 ประเภทมาแนะนำกันว่าแต่ละประเภทนั้นเหมาะกับผิวแบบไหนจะได้ซื้อมาใช้กันอย่างถูกต้อง 1.กันแดดเนื้อเจล เนื้อชนิดนี้เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความเหนียวเหนอะบนใบหน้า เพราะเนื้อเจลนั้นซึมไว และยังช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานขึ้นอีกด้วยนอกจากป้องกันแดดแล้วยังสร้างความชุ่มชื่นให้กับผิว ซึ่งกันแดดเนื้อเจลนั้นจะเหมาะกับคนผิวมันมากที่สุด หรือคนที่มีปัญหาเรื่องสิวผิวแพ้ง่าย 2กันแดดเนื้อครีม เป็นกันแดดที่มีขายอยู่มากตามท้องตลาดใช้ง่ายและสะดวก กันแดดแบบเนื้อครีมมักจะมีส่วนผสมของสารบำรุงผสมอยู่ด้วยจึงสร้างความชุ่มชื่นให้กับผิวแต่ด้วยตัวเนื้อครีมบางแบรนด์เป็นสีขาวก็อาจจะทำให้ผิวหน้าวอกได้ ดังนั้นหากอยากใช้กันแดดประเภทนี้ให้นำไปผสมกับรองพื้นจะได้สีที่เนียนหน้าไม่วอก 3.กันแดดผสมรองพื้น เป็น 2 in 1 สำหรับคนที่ไม่ชอบใช้ผลิตภัณฑ์เยอะๆ หลายขึ้นตอน ใช้กันแดดได้ทั้งกันรังสียูวีและเป็นรองพื้นไปในตัว ใช้กันแดดแล้วตบด้วยแป้งฝุ่นได้เลยไม่ต้องลงรองพื้นซ้ำอีก ส่วนใหญ่สีของกันแดดผสมรองพื้นจะเป็นสีเบสเมคอัพอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่ผิวมันอาจจะต้องเลือกกันแดดผสมรองพื้นที่มีเนื้อบางเบาสักหน่อยไม่อย่างงั้นอาจจะเยิ้มระหว่างวันได้

แนะนำ 3 แป้งพัฟที่ควรมีติดกระเป๋าเอาไว้เลย

Posted on February 25, 2017February 25, 2021

ปัจจุบันเครื่องสำอางนั้นผลิตออกมาเยอะทีเดียว และเราก็ไม่จำเป็นต้องใช้ของแพงเสมอไปเพราะว่าของราคากลางๆ ตอบโจทย์ความงามก็มีอยู่หลายแบรนด์ทีเดียว สบายกระเป๋าแต่ก็ยังสวยได้ และวันนี้เราก็มีแป้งพัฟคุณภาพดีๆ ที่ราคากลางๆ จับต้องได้มาแนะนำให้ใช้กันเช่นเคย มาดูกันว่ามีแบรนด์ไหนบ้าง 1. Oriental Princess Beneficial Ultimate Coverage Foundation Powder เป็นแป้งผสมรองพื้นเนื้อเนียนละเอียด สัมผัสที่บางเบาแต่ปกปิดได้ดีเยี่ยมเอาอยู่ทั้งรูขุมขนและริ้วรอยต่างๆ ด้วยความที่เนื้อบางเบามากเมื่อเจอแดดเหงื่อไหลก็ไม่ทำให้ผิวหน้าเป็นคราบมีประสิทธิภาพในการคุมมันด้วย เหมาะกับคนที่มีสภาพผิวมันแบบสุดๆ มีสารสกัดที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า เรียกว่านอกจากสร้างความสวยแล้วยังบำรุงไปในตัวอีกด้วย เป็นแป้งพัฟที่ควรมีติดไว้เลย 2. Cute Press Evory Retouch Oil Control Foundation Powder SPF30 PA+++ เป็นแป้งพัฟคุณภาพดีแบรนด์ไทยที่สาวๆ นิยมใช้กัน รุ่นนี้ใช้แล้วเสมอการรีทัชเลยก็ว่าได้มีความปกปิดขึ้นสูง เนื้อแป้งบางเบาปิดได้ทั้งรูขุมขนและรอยสิวต่างๆ ช่วยให้ผิวหน้ามีความเนียนเรียบเสมอกันประหนึ่งใช้แอพฯ รีทัชกันเลย สวยแบบไม่ต้องพึ่งแอพฯ เป็นแป้งพัฟที่มีราคาย่อมเยาว์แต่ประสิทธิภาพการปกปิดสูงเวอร์ 3. Cezanne UV Foundation EX Plus แป้งพัฟผสมรองพื้นเข้มข้นจากญี่ปุ่นเน้นเรื่องความคุมมันโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นแป้งที่มีเนื้อเนียนละเอียดใช้แล้วให้ความรู้สึกเหมือนไม่ได้ทาเพราะว่าเนื้อบางเบามาก ( more… )

3 กันแดด 3 แบบสำหรับสภาพผิวที่ต่างกัน ถูกแนะนำจากเหล่าบล็อกเกอร์ความงาม

Posted on November 24, 2016February 25, 2021

จริงๆ แล้วสภาพผิวของคนเรานั้นต่างกันด้วยกิจวัตรประจำวันและมลพิษรวมถึงการดูแลของแต่ละบุคคล ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะต้องคำนึงถึงสภาพผิวด้วย โดยเฉพาะส่วนของครีมกันแดด หากเลือกให้เหมาะสมก็จะทำให้มีประสิทธิภาพในการปกป้องและบำรุงมากยิ่งขึ้นด้วย วันนี้เราก็มีกันแดดทั้ง 3 แบบ 3 ประเภทมาแนะนำกันว่าแต่ละประเภทนั้นเหมาะกับผิวแบบไหนจะได้ซื้อมาใช้กันอย่างถูกต้อง 1.กันแดดเนื้อเจล เนื้อชนิดนี้เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความเหนียวเหนอะบนใบหน้า เพราะเนื้อเจลนั้นซึมไว และยังช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานขึ้นอีกด้วยนอกจากป้องกันแดดแล้วยังสร้างความชุ่มชื่นให้กับผิว ซึ่งกันแดดเนื้อเจลนั้นจะเหมาะกับคนผิวมันมากที่สุด หรือคนที่มีปัญหาเรื่องสิวผิวแพ้ง่าย 2กันแดดเนื้อครีม เป็นกันแดดที่มีขายอยู่มากตามท้องตลาดใช้ง่ายและสะดวก กันแดดแบบเนื้อครีมมักจะมีส่วนผสมของสารบำรุงผสมอยู่ด้วยจึงสร้างความชุ่มชื่นให้กับผิวแต่ด้วยตัวเนื้อครีมบางแบรนด์เป็นสีขาวก็อาจจะทำให้ผิวหน้าวอกได้ ดังนั้นหากอยากใช้กันแดดประเภทนี้ให้นำไปผสมกับรองพื้นจะได้สีที่เนียนหน้าไม่วอก 3.กันแดดผสมรองพื้น เป็น 2 in 1 สำหรับคนที่ไม่ชอบใช้ผลิตภัณฑ์เยอะๆ หลายขึ้นตอน ใช้กันแดดได้ทั้งกันรังสียูวีและเป็นรองพื้นไปในตัว ใช้กันแดดแล้วตบด้วยแป้งฝุ่นได้เลยไม่ต้องลงรองพื้นซ้ำอีก ส่วนใหญ่สีของกันแดดผสมรองพื้นจะเป็นสีเบสเมคอัพอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่ผิวมันอาจจะต้องเลือกกันแดดผสมรองพื้นที่มีเนื้อบางเบาสักหน่อยไม่อย่างงั้นอาจจะเยิ้มระหว่างวันได้

Posts navigation

Previous 1 2 3 4 Next

Bookmarks

  • ถุงมือกันลื่น
  • รับผลิตอาหารเสริม
  • โรงกลึงลาดกระบัง
  • ไม้กั้นรถยนต์

Meta

  • Log in
  • Entries feed
  • Comments feed
  • WordPress.org
Copyright © 2025. บทความแนะนำผลิตภัณฑ์ความงาม
Powered By WordPress and Meritorious